ก้าวล้ำไปอีกขั้นกับเทคโนโลยีเซนเซอร์รอบทิศทางของรถ ที่เก่งกาจมากขึ้นกว่าเดิม

แม้สภาพเศรษฐกิจของโลกในขณะนี้จะซบเซาลงจากสถานการณ์โควิด ผู้คนเริ่มที่จะเซฟเงินลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลง ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์และการขับขี่ เรื่องของการปรับเปลี่ยนประกันภัยรถใหม่ โดยเลือกราคาประกันภัยรถยนต์ที่ถูกลงกว่าเดิม ตรงนี้มักจะเป็นประเด็นแรก ๆ ที่คนมีรถนึกถึง ซึ่งก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในช่วงนี้ได้จริง ๆ

ไม่ว่าอะไรจะชะลอตัวไปอย่างไร แต่วงการนวัตกรรมยานยนต์ต่าง ๆ ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีล้ำ ๆ สำหรับรถยนต์อย่างไม่หยุดยั้ง และในขณะนี้บริษัท Continental หนึ่งในบริษัทสัญชาติเยอรมัน ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำของโลก กำลังพัฒนาระบบเซนเซอร์รอบทิศทางที่มีความสามารถมากขึ้น ระบบนี้จะเก่งกาจน่าสนใจขนาดไหนมาติดตามกัน

เซนเซอร์รุ่นใหม่จะใช้ระบบเรดาร์อัจฉริยะ

ในความเป็นจริงแล้วระบบเซนเซอร์ที่ใช้เรดาร์อัจฉริยะนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะทางผู้พัฒนาอย่าง Continental นั้นทำการศึกษาและพัฒนาระบบนี้มานานกว่า 20 ปี ซึ่งมีการใช้งานมา 5 Gen แล้ว เพียงแต่ในอีกไม่ช้านี้คาดว่าอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า เซนเซอร์ Gen 6 ก็จะถูกนำไปใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายอย่างเป็นรูปธรรม ตอนนี้ทางบริษัทผู้พัฒนาเริ่มมีการเจรจากับค่ายรถต่าง ๆ เพื่อนำไปทดลองติดตั้งใช้งานบ้างแล้ว

สำหรับความน่าสนใจของระบบเซนเซอร์นี้ ก็จะมีหลากหลายด้านที่น่าจับตา ยกตัวอย่างเช่น

• สามารถวัดค่าและตรวจจับได้ไกลถึง 250 เมตร โดยเป็นการตรวจจับแบบครบ 360 องศา
• มีการทำงานและประมวลผลข้อมูลผ่านระบบดาวเทียม ซึ่งเทคโนโลยีนี้ถือว่าล้ำหน้าและมีต้นทุนที่สูงมาก แต่ก็ให้ประโยชน์ที่สูงมากด้วย เพราะการส่งผ่านข้อมูลผ่านระบบดาวเทียมนั้นทำให้ตัวเรดาร์ตอบสนองการทำงานได้ทั้งมิติที่กว้างและไกลขึ้น
• เป็นเซนเซอร์ขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพการตรวจวัดค่าต่าง ๆ ทำงานได้เหมือนเซนเซอร์ตัวใหญ่
• สามารถทำงานเชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ได้อย่างลงตัว มีชุดซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันช่วยเชื่อมต่อการทำงานกับรถยนต์
• มีการส่งข้อมูลที่ประมวลผลแล้วกลับไปจัดเก็บไว้ในระบบคลาวด์ ทำให้ระบบสามารถจดจำพฤติกรรมการใช้งาน เข้าใจความเสี่ยงต่าง ๆ และประมวลผลออกมาเป็นรูปแบบการขับขี่ที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้รถได้

เซนเซอร์แบบใหม่นี้อาจใช้ในรถแบบอื่นด้วย

ทางบริษัทผู้พัฒนามีแนวคิดว่า เทคโนโลยีเซนเซอร์รอบทิศทางของรถที่พัฒนาขึ้นมานี้ จะต้องเป็นประโยชน์กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ฉะนั้น จึงต้องไม่ใช้เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้แค่ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเท่านั้น แต่จะต้องสามารถใช้งานกับรถได้หลายรูปแบบ อย่างการนำไปใช้กับรถมอเตอร์ไซค์ได้ นำไปใช้กับจักรยานได้ ซึ่งก็จะเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมากเลยทีเดียว

เทคโนโลยีในส่วนนี้ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีมาก เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้รถมากยิ่งขึ้น หากมีใช้ขึ้นมา อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เจ้าของรถมีโอกาสเลือกราคาประกันภัยรถยนต์ที่ตนเองพอใจได้มากขึ้น เพราะถ้ามีเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ก็ทำให้การวางแผนรับมือเรื่องอุบัติเหตุดูง่ายมากขึ้นกว่าเดิม อาจจะเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เซฟงบประมาณลงมาหน่อยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเลือกประกันชั้น 1 เสมอไป

ก็ต้องบอกว่าเทคโนโลยีเซนเซอร์รอบทิศทางของรถที่กำลังจะมีใช้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้มีความน่าสนใจมากจริง ๆ และคงจะช่วยทำให้เราทุกคนขับขี่กันได้อย่างปลอดภัยมีความมั่นใจมากขึ้น แต่ตอนนี้ในเมื่อเทคโนโลยีอัจฉริยะแบบนี้ยังมาไม่ถึง เราก็ต้องเตรียมพร้อมตัวเองกับเรื่องของการวางแผนเลือกราคาประกันภัยรถยนต์ที่ใช่ไปก่อน เพราะนี่คือสิ่งที่จะทำให้เราเกิดความมั่นใจเวลาที่เราต้องขับขี่เดินทาง มีไว้ก่อนยังไงก็ดีกว่าเสมอ